![](https://vilberg-vaf.com/wp-content/uploads/2024/02/dc75b3bb3bbf2c7d0a3d983b9551e42c.jpg)
![](https://vilberg-vaf.com/wp-content/uploads/2024/02/1eaefe2ce5963df76d7846857b4a12ae.jpg)
![](https://vilberg-vaf.com/wp-content/uploads/2024/02/ab80a27c8a1a37ee7e5d48a0b566bb0d.jpg)
![](https://vilberg-vaf.com/wp-content/uploads/2024/02/5859d2d20e3a9a01340fd57bff926f0e.jpg)
![](https://vilberg-vaf.com/wp-content/uploads/2024/02/2952e7594aef1eea83a40a02c1b27cc7.jpg)
ฟิลเตอร์สำหรับการกรองละเอียด (Medium/HEPA filter) กรองละเอียดต้องใช้ตัวไหน? ติดตั้งผิดมีผลอย่างไร??
รูปแบบของฟิลเตอร์กรองละเอียด โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ
- Minipleat media (Hot melt)
- Depth pleat media (Aluminum separator)
ส่วนRaw materialจะมีอยู่2ชนิดคือเนื้อPPและFine fiberglassmediaโดยเนื้อสองชนิดนี้จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันสำหรับการเลือกใช้งาน
- ความแตกต่างของฟิลเตอร์แต่ละชนิดคือ ค่าความดันตกคร่อมเริ่มต้น พื้นที่การกรอง ค่าVolume air flow โดยจะส่งผลถึงอายุการใช้งาน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และ การประหยัดพลังงานของระบบ
- ฟิลเตอร์ที่กรองได้ละเอียด -> ฝุ่นตันเร็ว/อายุการใช้งานสั้น
- ฟิลเตอร์โปร่งกรองได้หยาบ -> ก่อให้เกิดฝุ่นเข้าในระบบ/เกิดภาระการกรองของ Hepa filter ทำให้อายุการใช้งานของ Final filter สั้นลงรูปภาพ/วิดีโอแวดล้อมที่ติดตั้ง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด